|
บทสวดมนต์ชุมนุมเทวดา, บูชาพระรัตนตรัย และ สวดมนต์ |
|
|
|
|
บทสวดมนต์ชุมนุมเทวดา (สัคเค กาเม) |
|
สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน |
ขอเชิญเหล่าเทพเจ้าซึ่งสถิตย์อยู่ในสวรรค์ชั้นกามภพก็ดี รูปภพก็ดี และภุมมเทวดา |
ซึ่งสถิตย์อยู่ในวิมานหรือยอดเขาและหุบผา ในอากาศก็ดี |
|
ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต |
ในเกาะก็ดี ในแว่นแคว้นก็ดี ในบ้านก็ดี ในต้นพฤกษาและป่าชัฏก็ดี ในเรือนก็ดี ในที่ไร่นาก็ดี |
|
ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา |
เทพยดาทั้งหลาย ซึ่งสถิตย์ตามภาคพื้นดิน รวมทั้งยักษ์ คนธรรพ์และพญานาค |
ซึ่งสถิตย์อยู่ในน้ำ บนบก และที่อันไม่ราบเรียบ ก็ดี |
|
ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ |
ซึ่งอยู่ในที่ใกล้เคียง จงมาประชุมพร้อมกันในที่นี้ คำใดเป็นของพระมุนีผู้ประเสริฐ |
ท่านสาธุชนทั้งหลาย จงสดับคำข้าพเจ้านั้น |
|
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา |
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม |
|
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา |
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม |
|
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา |
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
บทสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย |
|
อิมินาสักกาเรนะ พุทธังอะภิปูชะยามิ |
ข้าพเจ้าขอกราบไหว้บูชาพระพุทธ |
|
อิมินาสักกาเรนะ ธัมมังอะภิปูชะยามิ |
ข้าพเจ้าขอกราบไหว้บูชาพระธรรม |
|
อิมินาสักกาเรนะ สังฆังอะภิปูชะยามิ |
ข้าพเจ้าขอกราบไหว้บูชาพระสงฆ์ |
|
|
|
|
บทกราบพระรัตนตรัย |
|
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, |
พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงกิเลส เพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง |
|
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ. |
ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน (กราบ) |
|
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, |
พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว |
|
ธัมมัง นะนัสสามิ. |
ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม. (กราบ) |
|
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, |
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว |
|
สังฆัง นะมามิ. |
ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์. (กราบ) |
|
|
|
|
บทนมัสการ พระรัตนตรัย |
|
* นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, |
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น |
|
อะระหะโต, |
ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส |
|
สัมมาสัมพุทธัสสะ, |
เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง โดยชอบ (กราบ) |
|
|
* นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, |
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น |
|
อะระหะโต, |
ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส |
|
สัมมาสัมพุทธัสสะ |
เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง โดยชอบ (กราบ) |
|
|
* นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, |
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น |
|
อะระหะโต, |
ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส |
|
สัมมาสัมพุทธัสสะ, |
เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง โดยชอบ (กราบ) |
|
|
|
|
บทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ |
|
|
บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ |
|
อิติปิ โส ภะคะวา ( เพราะเหตุอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ) |
อะระหัง ( เป็นผู้ไกลจากกิเลส ) |
สัมมาสัมพุทโธ ( เป็นผู้ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง ) |
วิชชาจะระณะสัมปันโน ( เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ) |
สุคะโต ( เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี ) |
โลกะวิทู ( เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง ) |
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ ( เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า ) |
สัตถา เทวะมนุสสานัง ( เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ) |
พุทโธ ( เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม ) |
ภะคะวาติ. ( เป็นผู้มีความจำเริญจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้ ) |
|
|
บทสรรเสริญ พระธรรมคุณ |
|
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ( พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว ) |
สันทิฏฐิโก ( เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง ) |
อะกาลิโก ( เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล ) |
เอหิปัสสิโก ( เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด ) |
โอปะนะยิโก ( เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว ) |
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ. ( เป็นสิ่งที่ผู้รู้ พึงรู้ได้เฉพาะตน ดังนี้ ฯ ) |
|
|
บทสรรเสริญ พระสังฆคุณ |
|
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ( สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติดีแล้ว ) |
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ( สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติตรงแล้ว ) |
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ |
( สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว ) |
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ( สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติสมควรแล้ว ) |
ยะทิทัง ( ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ ) |
จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา ( คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้แปดบุรุษ ) |
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ( นั่นแหละ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ) |
อาหุเนยโย ( เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา ) |
ปาหุเนยโย ( เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่จัดไว้ต้อนรับ ) |
ทักขิเณยโย ( เป็นผู้ควรได้รับทักษิณาทาน ) |
อัญชะลีกะระณีโย ( เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี ) |
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ. ( เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้ ) |
|
|
************************************ |
|
ข้อมูล เพิ่มเติมุ :- |
|
พระรัตนตรัย หรือ พระไตรรัตน์ แปลว่า แก้ว ๓ ดวง, แก้ว ๓ อย่าง |
ที่เรียกว่า รัตนะ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ มีค่าสูง และหาได้ยาก เทียบด้วยดวงแก้วมณี |
|
พระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเรียกเต็มว่า พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ซึ่งได้แก่ |
|
พระพุทธ |
คือ ท่านผู้ตรัสรู้ธรรมแล้วสอนให้ประชาชนให้ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ ตาม พระวินัย ที่เรียกว่า พระพุทธเจ้า |
|
พระธรรม |
คือ พระธรรมวินัยอันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า |
|
พระสงฆ์ |
คือ หมู่ชนที่ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้วปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย |
|
|
|
|
นมัสการไตรสรณคมน์ |
|
ไตรสรณคมน์ แปลว่า การถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก ได้แก่การเปล่งวาจาขอถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ว่าเป็นสรณะที่พึ่งพิงที่ระลึกว่า |
|
|
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ |
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ |
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ |
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
|
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ |
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ |
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ |
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
|
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ |
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ |
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ |
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก |
|
|
|
|
|
|
|
|
บทสวดมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (บาลี) |
|
|
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ต้นฉบับเดิม |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอขอบคุณ ข้อมูลและภาพ : รักสวดมนต์.blogspot.com |
รักสวดมนต์.blogspot.com |
http://xn--12c2bdp3bj3ax5dvq.blogspot.com/search?updated-min=2013-01-01T00:00:00-08:00&updated-max=2014-01-01T00:00:00-08:00&max-results=22 |
|
|
ขอขอบคุณ ข้อมูลและภาพ : http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=166.0 |
http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=166.0 |
|
|
|
|
|
|